+ 'เมาส์ไร้สาย' ยี่ห้อไหนดี 2021 รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ +

อุปกรณ์คู่ใจสำหรับคนใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นประจำ คงหนีไม่พ้นเมาส์ไร้สายแน่นอน รุ่นใหม่ที่วางขายเดี๋ยวนี้ ก็ได้รับการพัฒนาให้ใช้พลังงานน้อยลง สามารถสวิตซ์ไปเชื่อมต่อผ่านบลูทูธได้สะดวกอีกด้วย ลดระยะเวลาดีเลย์ในการใช้งาน จะเอาไปทำงานหรือเล่นเกมก็ดีงามแน่นอน แล้วเราจะเลือก เมาส์ไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักเมาส์ที่น่าสนใจ 10 รุ่น หลายราคา เชื่อว่าจะต้องมีสักรุ่น สักยี่ห้อที่มีคุณสมบัติตรงตามใจคุณ

เมาส์ไร้สายทั่วไป ต้องใช้คู่กับตัวรับสัญญาณ USB มีข้อดีตรงเสียบใช้งานได้ง่าย สัญญาณมีความเสถียรสูง และยังกินไฟน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับแบบ Bluetooth

เมาส์ไร้สาย Bluetooth จะมีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องเสียบตัวรับสัญญาณ USB ให้วุ่นวายเหมือนแบบแรก ซึ่งเจ้า USB ที่เสียบคา Notebook นี้ เวลาหยิบใส่กระเป๋าแล้วเผลอไปกระแทรกอะไรเข้าอาจเป็นเรื่อง แล้วอาจจะเผลอทำเจ้าตัวรับ USB หายได้ด้วย ที่สำคัญอุปกรณ์อย่าง Tablet Android หรือ iPad รุ่นใหม่ ๆ สามารถรองรับการทำงานเมาส์ Bluetooth ได้แล้ว นอกจากนี้บางรุ่นยังให้ตัวรับสัญญาณ USB มาด้วย จึงสามารถใช้สวิตซ์การใช้งานได้ทั้ง 2 แบบ ใครมีคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องก็ประยุกต์เชื่อมต่อด้วย USB ที่เครื่องแรก ส่วนเครื่องที่สองก็เชื่อมผ่าน Bluetooth เอา สลับไปมาได้ด้วยการกดปุ่มเปลี่ยน Mode บนตัวเมาส์ สะดวกมากเลยครับ

ปรับค่า DPI ได้ ใครที่เน้นการใช้งานที่ต้องปรับความไวบ่อย หรือใช้งานกันหลายคน ซึ่งแต่ละคนอาจจะใช้ความเร็วไม่เท่ากัน ก็ขอแนะนำให้ลองดูเมาส์ที่ปรับความเร็วได้ด้วยครับ

ปุ่มและฟังก์ชั่นเสริม เมาส์บางรุ่นอาจจะมีปุ่มอื่น ๆ เพิ่มเติมจากปกติมา ช่วยอำนวยความสะดวกได้ดี เวลาใช้งานอย่าลืมลง Software ของเมาส์ด้วย จะช่วยปรับการทำงานปุ่มต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้น หรือบางรุ่นก็อาจจะมีฟังก์ชั่นเสริมให้ใช้งานอีกด้วย

Ergonomic หรือดีไซน์เพื่อสุขภาพตามหลักการยศาสตร์ จะช่วยลดความปวดเมื่อยสำหรับการใช้งานเป็นเวลานานได้ ถ้าต้องทำงานนาน ๆ แล้วปวดมือบ่อย ลองหาเมาส์แบบนี้มาสำรองไว้ใช้งานบ้างก็ดีครับ

สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาอ่าน อยากดูเมาส์ไร้สาย แบบสั้น ๆ วางเรียงเปรียบเทียบ ราคา, ลักษณะการเชื่อมต่อ, ความไว, ลักษณะแบตเตอรี่, จุดเด่น และอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลย หรือถ้าอยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็เลื่อนผ่านปุ่มสีแดง ไปดูรีวิวสินค้าต่อเลยครับ

เทรนด์รักสุขภาพต้องมา เมาส์เพื่อสุขภาพต้องมี สำหรับใครที่มีปัญหาปวดเมื่อย ข้อมือพลิก แขนบิดงอผิดรูป เพราะต้องใช้เมาส์เป็นประจำ Bewell แบรนด์ที่หลายคนน่าจะเคยเห็นบ่อย ๆ เพราะผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพสำหรับมนุษย์ออฟฟิศออกมาอย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในนั้นคือ Vertical Ergonomic mouse ที่ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) เพื่อให้ข้อมืออยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม รูปทรงแนวตั้งช่วยให้แขนท่อนล่างไม่บิด ไม่เกิดการกดทับข้อมือ มีร่องเว้าสำหรับวางนิ้วโป้ง นิ้วนาง และนิ้วก้อย เป็นการเพิ่มพื้นที่ในการวางมือ ทำให้จับเมาส์ได้ถนัดมากขึ้นครับ

ในส่วนของฟังก์ชันอื่น ๆ การเชื่อมต่อใช้ Wireless USB 2.4 GHz รับสัญญาณได้ไกลในระยะ 10 เมตร มีแบตเตอรี่ในตัวชาร์จไฟ 1 ครั้งใช้ได้นาน 15 วัน ปุ่มคลิกเมาส์แบบไร้เสียง ไม่รบกวนสมาธิและคนรอบข้าง มีปุ่ม Forward / Backward ที่บริเวณนิ้วโป้ง ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น สามารถเลือกเปิดปิดไฟเมาส์ได้เอง และยังมีปุ่มสำหรับปรับความไว 3 ระดับ คือ 800 / 1,200 และ 1,600 DPI ดูจากรีวิวผู้ใช้โดยรวมอาจจะไม่ค่อยชินในช่วงแรก ด้วยรูปทรงที่ไม่คุ้นเคยแต่เมื่อได้ลองใช้ จะรู้สึกได้ว่าจับเมาส์ได้สบายขึ้น วางมือได้สะดวกขึ้น สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องข้อมือ ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีเลยครับ

เมาส์ไร้สายจากแบรนด์สุดฮิตของประเทศจีน Mi Wireless Mouse Lite ตัวนี้เป็นรุ่นเบา ๆ เบาทั้งราคาและน้ำหนัก ดีไซน์เรียบเนียนสีดำด้าน ขนาดกำลังเหมาะพอดีมือ พอดีนิ้ว ไม่บางเกินไป คนที่ฝ่ามือใหญ่จับแล้วไม่ล้น ทำให้คลิกได้ถนัดลื่นไหล น้ำหนักน้อยเพียง 60 กรัม ไม่หน่วงมือ ใช้การเชื่อมต่อด้วย Wireless USB ความถี่ 2.4 GHz รับสัญญาณได้ไกล 10 เมตร ความไวเมาส์ 1,000 DPI ใช้ได้กับทุกสภาพพื้นผิว ปุ่มคลิกซ้าย-ขวารองรับการใช้งานได้มากถึง 5 ล้านคลิกครับ

นอกจากนี้ยังใช้พลังงานต่ำ ใส่ถ่าน AAA 1 ก้อน มีฟังก์ชันหยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งาน วัสดุที่เป็นแผ่นรองใต้ฐานเมาส์ทำจากเทฟลอน มีความเสียดทานต่ำ ป้องกันการสึกหรอได้ดี ช่วยให้ขยับเมาส์ได้คล่องไม่ติดขัด จากรีวิวในอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ บอกว่าเมาส์มีคุณภาพได้มาตรฐานดี คุ้มค่าตามราคา ไม่ได้ดีเลิศแต่ก็ใช้งานได้ปกติ หากไม่ต้องการความหวือหวาอะไรมาก ซื้อไว้ใช้งานง่าย ๆ ก็ไม่เสียดายเงินแน่นอนครับ

แค่เห็นก็สะดุดตาแล้ว สำหรับ Microsoft Arc Mouse Bluetooth ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดล้ำการันตีด้วยรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม สวยงามแบบเห็นแล้วต้องอยากลองสัมผัสดูสักครั้ง กับรูปร่างบางเฉียบที่สามารถปรับให้โค้งงอเมื่อใช้งาน และเปลี่ยนเป็นแบนราบได้เมื่อใช้เสร็จ พร้อมสีเท่ ๆ ให้เลือก 4 สี ทั้งสีดำเข้มขรึม, สีเขียวอมเทาสบายตา, สีม่วงอ่อนของดอกไลแลค และสีชมพูอ่อนโทนหวาน เชื่อมต่อ Bluetooth ใช้งานได้ไกล 10 เมตร ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ Microsoft Bluetrack ซึ่งผสมผสานระหว่าง Optical และ Lasor ทำให้ใช้ได้กับทุกพื้นผิว เลื่อนเมาส์ได้ลื่นไหลไม่สะดุดแน่นอนครับ

นอกจากนี้ยังประหยัดพลังงาน ใช้ถ่าน AAA 2 ก้อน สามารถใช้งานได้นาน 6 เดือน มีฟังก์ชัน Swift Pair สำหรับ Windows 10 ช่วยให้จับคู่กับอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น เปิดปิดเมาส์ได้อย่างฉลาดแค่ปรับโค้งเป็นการเปิด และปรับแบนราบเพื่อปิด รวมทั้งสามารถ Scroll บนตัวเมาส์ได้เลย ไม่ต้องใช้ลูกกลิ้งจึงทำให้มีความบางและจัดเก็บได้สะดวกมาก ๆ ใส่ในกระเป๋าหรือซอฟต์เคสก็สวยงามลงตัว ข้อเสียที่มีผู้ใช้รีวิวจะเป็นเรื่องของความไม่ถนัดมือในการใช้งานแรก ๆ เพราะความโค้งงอที่มีช่องกลวงตรงกลาง แต่เมื่อใช้ไปสักวันสองวันจนคล่องมือแล้วก็ไม่เป็นปัญหาอีก แม้ราคาจะสูงแต่ก็น่าลองใช้มาก ๆ ครับ

เมาส์ที่คู่ควรสำหรับเกมเมอร์ตัวจริง Razer Basilisk X HyperSpeed เป็น Gaming Mouse ดีไซน์สุดล้ำสีดำเท่ ๆ รูปทรงก็จับถนัดกระชับมือ ถูกใจสายเกมแน่นอน เชื่อมต่อแบบ Dual-Mode เลือกได้ว่าจะต่อ Bluetooth หรือใช้ Wireless USB 2.4 GHz และมีเทคโนโลยี HyperSpeed ซึ่งทาง Razer นำมาใช้กับเมาส์เป็นเจ้าแรก ซึ่งให้ความเร็วกว่าปกติถึง 25 เปอร์เซ็นต์ มีเซ็นเซอร์ตรวจจับ 5G Optical แบบใหม่ที่แม่นยำถึง 99.4 เปอร์เซ็นต์ ให้ความไวสูงสุดถึง 16,000 DPI ตอบโจทย์การเล่นเกมสุด ๆ ส่วนแบตเตอรี่ใช้ถ่าน AA 1 ก้อน หากใช้โหมด Bluetooth จะอยู่ได้นาน 450 ชั่วโมง ส่วนโหมด HyperSpeed Wireless ได้ 285 ชั่วโมงครับ

ปุ่มคลิกเป็นแบบกลไกที่ช่วยให้คลิกได้รวดเร็วแม่นยำ รองรับการคลิกมากถึง 50 ล้านคลิก นอกจากนี้ยังสามารถโปรแกรมปุ่มเมาส์ได้ทั้งหมด 6 ปุ่ม และตั้งค่า DPI เองได้ 5 ระดับ เรียกว่าจะไปแข่งเกมที่ไหนก็เซ็ตค่าไว้พร้อมแข่งได้ทันที รีวิวจากบรรดาเกมเมอร์ก็ค่อนข้างดี ตอบสนองไวไม่ดีเลย์ ไม่ต้องกังวัลเรื่องแบตเสื่อม เพราะเปลี่ยนถ่านใส่ได้เอง ส่วนรีวิวจากลูกค้าทั่วไปก็ไม่มีปัญหา ชอบตั้งแต่ดีไซน์หน้าตา ไปจนถึงการใช้งานที่ไวสมคำโฆษณา ใช้เล่นเกมคือดีงาม ใช้ทำงานก็ได้เช่นกัน ใครเป็นสายเกมมิ่งต้องจัดแล้วล่ะครับ

เกมเมอร์ที่อยากได้เมาส์หน้าตาเท่ ๆ แสงไฟวิบวับ แต่ราคาไม่แพง แนะนำของ Bonkyo รุ่นนี้เป็นเมาส์ไร้สายดีไซน์เฉี่ยวสไตล์เกมมิ่ง มี 2 สี จะเป็นสีดำแมน ๆ หรือสีชมพูหวาน ๆ ก็สวยทั้งสองแบบ มีไฟ LED ช่วยสร้างบรรยากาศในการใช้งาน เล่นสีสลับไปมาอัตโนมัติ ไม่สามารถเลือกสีเองได้ แต่ก็สวยมาก ๆ เมื่อใช้งานในที่มืด ใช้เล่นเกมก็ได้ฟีลสุด หรือจะใช้งานปกติก็ทำให้ไม่น่าเบื่อ เชื่อมต่อด้วย Wireless USB 2.4 GHz ใช้งานได้ในระยะ 1 เมตร มีแบตเตอรี่ในตัว ไม่ต้องใช้ถ่านไฟฉายใด ๆ ชาร์จ 1 ครั้ง ใช้ได้ประมาณ 2 เดือนครับ

เรื่องความไวสามารถปรับได้ 3 ระดับ คือ 800 / 1,200 และ 1,600 DPI และตั้งค่าได้มากถึง 6 ปุ่ม น้ำหนัก 150 กรัม ค่อนข้างมากกว่าเมาส์ไร้สายรุ่นอื่น ๆ หากใช้เล่นเกมอาจต้องดูว่าเหมาะกับเกมประเภทใด ด้วยราคาที่ประหยัด ฟังก์ชันอาจไม่มีอะไรหลากหลายมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นยอดขายก็ค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่ถูกใจกับรูปแบบดีไซน์สวยล้ำ รวมทั้งการเล่นไฟเปลี่ยนสีไปมา นอกจากนี้ก็มีในเรื่องของคลิกนิ่มและเสียงคลิกเบา ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้ใช้พอใจกับคุณภาพของตัวสินค้าครับ

สำหรับใครที่อยากหาเมาส์ราคาไม่แพง ลองดูของ iwachi รุ่นนี้ก็น่าสนใจทีเดียว ด้วยดีไซน์รูปร่างหน้าตาโฉบเฉี่ยว ออกแบบให้เหมาะกับสรีระมือของผู้ใช้ เพื่อให้จับถนัดไม่ปวดเมื่อย มีขนาดและน้ำหนักที่กำลังดี เชื่อมต่อด้วย Wireless USB ความถี่ 2.4 GHz รับสัญญาณได้ไกล 10 เมตร ปุ่มคลิกไร้เสียงกวนใจ ความไวเมาส์สามารถปรับได้ 3 ระดับ 800 / 1,200 และ 1,600 DPI เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการ ไม่ว่าจะใช้ปกติหรือเล่นเกมก็ได้ เพราะใช้ชิปออปติคัลระดับเกมมิ่งประสิทธิภาพสูงช่วยลดการหลุดตกเฟรมของเมาส์ได้ดีครับ

สามารถรองรับระบบปฏิบัติการได้ค่อนข้างครอบคลุม ใช้งานสะดวกได้ทุกอุปกรณ์ นอกจากราคาที่ประหยัดมาก ๆ แล้ว ยอดขายก็โอเค แถมรีวิวจากผู้ใช้ยังค่อนข้างดีด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจับกระชับมือ ปุ่มคลิกนุ่มและลูกกลิ้งที่ลื่นไหล ใช้แล้วสบายมือจริง รวมทั้งเสียงคลิกเงียบตรงตามคุณสมบัติที่ระบุไว้ เหลือเพียงเรื่องของความทนทานที่คงต้องลองใช้ ว่าจะสึกหรอเร็วช้าแค่ไหน แต่เทียบกับราคาแล้ว ฟังก์ชันเท่านี้ก็น่าจะคุ้มค่าอยู่ครับ

หน้าตาอาจดูธรรมดา แต่คุณสมบัติเรียกว่าจัดเต็มมาให้เลย Logitech M590 เมาส์ไร้สายที่เชื่อมต่อได้ทั้ง Wireless USB และ Bluetooth ชูจุดเด่นเทคโนโลยีเฉพาะ Silent Touch ลดเสียงคลิกลงมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีเสียงมารบกวนสมาธิระหว่างทำงาน หรือกวนใจคนรอบข้าง ขนาดกำลังดีจับกระชับ รองรับอุ้งมือได้ดี ลูกกลิ้งใช้ได้ทั้งขึ้นลงและซ้ายขวา มีความแม่นยำระดับไมโครช่วยให้เลื่อนดูเว็บเพจยาว ๆ ได้สะดวก มีฟังก์ชัน Logitech Flow ใช้งานระหว่างหน้าจอ 2 เครื่องได้อย่างง่ายดาย จะย้ายรูปหรือคัดลอกไฟล์ก็ทำได้รวดเร็วไม่สะดุด ใช้ข้ามระบบ Mac กับ Window ก็ไม่มีปัญหา และยังมี Easy Switch ที่จับคู่เมาส์กับอุปกรณ์ได้ 2 เครื่อง และสลับเปลี่ยนได้ง่ายเพียงแค่การคลิกครับ

มีตัวรับสัญญาณ USB Unifying ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ของ Logitech ได้พร้อมกันมากถึง 6 ตัว รองรับสัญญาณในระยะ 10 เมตร นอกจากนี้ยังมี Logitech Option ที่ช่วยตั้งค่าต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนความเร็ว, การเปิดใช้งาน Flow, การตั้งทางลัดที่ใช้งานบ่อยได้ถึง 5 ปุ่ม รวมทั้งปุ่มหัวแม่มือพิเศษ เรียกว่าปรับแต่งตามแต่ความถนัดของผู้ใช้ได้เลย ส่วนของแบตเตอรี่ใช้ถ่าน AA ก้อนเดียว มีโหมดประหยัดพลังงานช่วยให้ใช้งานได้นานถึง 24 เดือน เห็นคุณสมบัติเพียบขนาดนี้ แต่ราคาก็ไม่ได้สูงจนเกินไป เทียบกับการใช้งานแล้วคุ้มราคาที่จ่ายไปแน่นอนครับ

เมาส์ไร้สายจากค่าย HP แบรนด์ที่ไม่ได้มีดีแค่ปริ้นเตอร์แต่ยังผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพด้วย เมาส์รุ่น S-1000 Plus ตัวนี้ดีไซน์แบบเรียบง่าย ออกแบบรูปทรงให้จับสบาย ไม่เมื่อยล้าหากต้องใช้งานต่อเนื่อง มีสีให้เลือกตามความชอบ ทั้งสีดำ, ขาว, ชมพู, ฟ้า ใช้การเชื่อมต่อด้วย Wireless USB ความถี่ 2.4 GHz รับสัญญาณได้ไกล 10 เมตร น้ำหนักเมื่อรวมกับแบตเตอรี่แล้วประมาณ 80 กรัม ก็ถือว่าอยู่ในมาตรฐาน ไม่ได้หนักแต่ก็ไม่ได้เบากว่ารุ่นอื่น ๆ ตัวลูกกลิ้งเป็นโลหะรองรับการ Scroll ได้ดี มีความแข็งแรงทนทานครับ

จุดเด่นของรุ่นนี้คงเป็นเรื่องของเสียงคลิกเบา ช่วยให้มีสมาธิในการทำงานได้มากขึ้น รวมถึงหากจำเป็นต้องใช้งานในที่สาธารณะก็จะไม่รบกวนคนอื่น ๆ ด้วย ส่วนของความไวเมาส์สามารถปรับได้ 3 ระดับ คือ 800 / 1,200 และ 1,600 DPI มีฟังก์ชันประหยัดพลังงานเมื่อไม่ใช้ ใส่ถ่าน AA 1 ก้อน ใช้งานได้นานถึง 12 เดือน ด้วยยี่ห้อเองก็เชื่อถือได้ ราคาก็ประหยัดมาก ๆ ทำให้ยอดขายค่อนข้างดี หลายคนเลือกใช้เพราะสะดวกและคุ้มค่า หากไม่ต้องการฟังก์ชันอะไรมากมายนัก ก็ซื้อไว้ใช้งานง่าย ๆ ได้เลยครับ

ถ้าอยากได้เมาส์ไร้สาย ไร้เสียง ประหยัดพลังงาน แนะนำ OKER สองรุ่นนี้เลย M681 และ M685 ฟังก์ชันการใช้งานค่อนข้างใกล้เคียงกัน ดีไซน์แฟชั่นมีสีสันให้เลือกหลากหลาย คนชอบความสดใสน่าจะถูกใจเลยทีเดียว โดยรุ่น M685 จะแตกต่างเล็กน้อยตรงที่มีการออกแบบรูปร่างเมาส์ตามหลักสรีรศาสตร์ รองรับอุ้งมือช่วยให้ไม่ปวดเมื่อยหากต้องใช้เป็นเวลานาน ส่วนการเชื่อมต่อเป็นรูปแบบ Wireless USB 2.4 GHz ใช้งานได้ในระยะไกลถึง 20 เมตร เสียงคลิกเงียบ ตัวลูกกลิ้งเป็นคลื่นไม่ลื่นนิ้ว รวมทั้งไม่มีแสงไฟ ไม่ต้องกลัวว่าจะรบกวนใครระหว่างใช้งานด้วยครับ

ส่วนของความไวนั้นอยู่ที่ 1,600 DPI การใช้งานรองรับระบบปฏิบัติการที่หลากหลายครอบคลุม นอกจากนี้ยังประหยัดพลังงาน ใช้ถ่านไฟฉายขนาด AA เพียง 1 ก้อน หากไม่ได้ใช้งานต่อเนื่องสมบุกสมบัน ก็สามารถใช้ตามปกติได้นานถึง 12 เดือนเลย นอกจากประหยัดพลังงานแล้ว ราคาก็ประหยัดมาก จึงมียอดขายในออนไลน์ค่อนข้างสูง หลายคนซื้อใช้เพราะสีสันที่สดใส คุณภาพมาตรฐานตามราคา เสียงคลิกเบาไม่ถึงกับเงียบ แต่คลิกนิ่มสบายมือ ดูรวม ๆ แล้วก็คุ้มค่าใช้ได้เลยครับ

สำหรับเมาส์ไร้สายที่เชื่อมต่อได้แบบ Multi-Mode ตัวนี้ Rapoo 7200M ตัวเมาส์ดีไซน์เรียบหรู สีเทาเข้ม, สีแดง และสีขาว รูปทรงออกแบบให้จับสบาย รับกับอุ้งมือได้ดี มีคุณสมบัติเด่นตรงการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ใครสะดวกใช้แบบไหนก็เลือกใช้ได้ ทั้งแบบ Wireless USB หรือ Bluetooth 3.0 / 4.0 ก็สะดวก หากเผลอลืม USB Receiver หรือไปทำหายที่ไหน ก็ยังมี Bluetooth ให้ใช้ได้ รับสัญญาณได้ไกล 10 เมตร ประหยัดพลังงาน ใช้ถ่าน AA 1 ก้อน ได้นาน 9 เดือน เสียงคลิกเบาไม่กวนสมาธิ จะใช้งานนอกบ้านหรือนอกออฟฟิศ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะรบกวนคนรอบข้างครับ

ที่เด่น ๆ อีกอย่างคือการจับคู่ได้ 3 อุปกรณ์พร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น PC, Laptop, Tablet และสามารถสลับอุปกรณ์ได้ง่าย ๆ เพียงแค่กดคลิกเท่านั้น เป็นฟังก์ชันดีงามสำหรับใครที่ต้องใช้งานหลายอุปกรณ์มาก ๆ ความไวเมาส์สูงสุดอยู่ที่ 1,600 DPI ซึ่งมีสวิตช์ปรับได้ 4 ระดับบนตัวเมาส์ รวมทั้งใช้งานได้ไหลลื่นแทบทุกพื้นผิว รีวิวจากลูกค้าส่วนใหญ่ก็โอเค คุณภาพดีไม่มีปัญหา เฉพาะเรื่องคลิกที่พบว่าเสียงเบาแค่ตัวคลิกซ้าย-ขวาเท่านั้น ปุ่มอื่นยังคลิกมีเสียงอยู่ แต่ปกติแล้วก็คงไม่ค่อยได้ใช้ปุ่มอื่นมากนักอยู่แล้ว นับว่าคุณสมบัติมาครบ ราคารับได้ ลองหามาใช้กันดูไม่น่าผิดหวังครับ

อ่านกันมาถึงตรงนี้คงจะได้คำตอบ เมาส์ไร้สาย ยี่ห้อไหนดี แล้วแน่เลย เมาส์หลายรุ่นก็มีฟังก์ชั่นเสริม ดีไซน์แหวกแนวน่าสนใจ น่าใช้งาน น่าเสียเงินจริง ๆ แต่ถ้าอยากได้เมาส์ราคาเบา ๆ ก็มีหลายรุ่นให้เลือกเช่นกัน ส่วนใครที่อยากจะเอาไว้เชื่อมต่อแทปเล็ต ไอแพด ก็เลือกใช้งานแบบ Bluetooth หรือแบบ 2 in 1 ที่สามารถสลับโหมดการใช้งานได้ทั้ง Bluetooth และ ตัวรับสัญญาณแบบ USB สุดท้ายนี้ก็ขอให้เลือกได้เมาส์ที่ถูกใจ ใช้งานทนทาน ทำงานได้สะดวกคล่องแคล่วกันนะครับ